

สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอแม่แจ่ม 
ประวัติตั้งเดิมของ “อำเภอแม่แจ่ม” ไม่มีผู้ใดทราบข้อมูลชัดเจนและไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยืนยันได้ เป็นเพียงตำนานเล่าสืบกันมาว่าแต่ก่อนมีสิงห์สองตัวพี่น้องหากินกันอยู่ในป่าใหญ่ ได้เกิดแย่งอำนาจ และรุกล้ำเขตหากินเป็นข้อพิพาทกันอยู่เนือง ๆ จนกระทั่งพระปัจเจกพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดเวไนยสัตว์ จึงได้แบ่งเขตหากินให้โดยเอาลำห้วยแห่งหนึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงเขตแดน เรียกสืบกันมาว่า “ห้วยช่างเคิ่ง” ซึ่งหมายความว่าแบ่งครึ่งกันไว้ ต่อมาพระพุทธเจ้าได้เสด็จไปประทับที่ดอยสะกาน ทรงเห็นว่าราษฎรยากจนขาดแคลนข้าวปลาอาหาร ที่จะนำไปถวาย จึงขนานนามเมืองนี้ว่า “เมืองแจม” (แจม แปลว่า อดอยากขาดแคลน) ต่อมาชาวบ้านเรียกเพี้ยนเป็น “เมืองแจ๋ม” และ “แม่แจ่ม” จนกระทั่งถึงทุกวันนี้
อำเภอแม่แจ่ม ได้ยกฐานะเป็นอำเภอครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2477 ตั้งชื่ออำเภอว่า “อำเภอช่างเคิ่ง” ที่ว่าการอำเภอตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 4 ตำบลท่าผา ในปัจจุบัน มีนายชื่น ดำรงตำแหน่งเป็นนายอำเภอคนแรก แต่ขณะนั้นราษฎรอดอยากขาดแคลน และไม่นิยมการปกครองที่เก็บภาษีอากร จึงได้มีราษฎรกลุ่มหนึ่งเข้าปล้นที่ว่าการอำเภอ ทางราชการจึงได้ย้ายที่ว่าการอำเภอไปอาศัยอยู่ที่วัดช่างเคิ่ง โดยมีท้าวสุดสนิทเป็นนายอำเภอและมีฐานะเป็นอำเภอ ต่อมาจนถึง พ.ศ. 2481 ทางราชการได้ลดฐานะเป็นกิ่งอำเภอตั้งชื่อว่า “กิ่งอำเภอแม่แจ่ม” ขึ้นกับอำเภอจอมทอง และได้รับการยกฐานะเป็นอำเภออีกครั้งหนึ่ง เมื่อปี พ.ศ. 2499
อำเภอแม่แจ่มมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งในด้านศิลปวัฒนธรรม หัตถกรรม และแหล่งธรรมชาติอันทรงคุณค่า อาทิ เช่น พระเจ้าตนหลวง พระพุทธรูปสมัยเชียงแสน พระเจ้าแสนตองพระพุทธรูปโบราณ ปางมารวิชัย สมัยเชียงแสน โบสถ์กลางน้ำโบราณ ภาพจิตกรรมฝาผนังวัดป่าแดด คิชกูฎวัดยางหลวง หมู่บ้านผ้าตีนจก น้ำตกแม่ปาน น้ำตกห้วยทรายเหลือง บ่อน้ำพุร้อนเทพพนม น้ำออกรู ฯลฯ พร้อมสถานที่พัก ที่พร้อมต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองด้วยอัธยาศัยไมตรีที่ดีงามของผู้คน